ออกจากระบบ
เข้าสู่ระบบ
หรือ
สมัครสมาชิก
เข้าสู่ระบบ
ชื่อผู้ใช้:
รหัสผ่าน:
ลืมรหัสผ่าน ?
ก
ก
ก
iOPAC
ค้นหา
ข่าวสาร
ข้อมูลสมาชิก
ยืมต่อ
ค่าปรับ
สถิติ
รายงาน
ช่วยเหลือ
คู่มือ
ปิด
ข้อมูลบรรณานุกรม
#1138651
แบบย่อ
|
แบบเต็ม
|
MARC
ตัวอย่าง
เพิ่มแท็ก
เพิ่มรายการ
แบ่งปัน
แนะนำ
สั่งซื้อ
บันทึก
ส่งออก
Citation
ความนิยม
ประเภทวัสดุ
หนังสือ
ชื่อเรื่อง
ความเป็นไปได้ในการจัดตั้งศาลวินัยทางบัญชี งบประมาณ การเงินและการคลังของประเทศไทย : กรณีของการเสนอร่างพระราชบัญญัติปะกอบรัฐธรรมนูญ / จารุวรรณ เมณฑกา
ชื่อเรื่อง
Probability of the Establishment of Discipline Court for Accounting, Budgeting, Finance and Fiscal : The Case of Proposing the Organic Law for the Auditor General Office of Thailand
Dewey Call #
343.034 จ27ค
ผู้แต่ง
จารุวรรณ เมณฑกา
หัวเรื่อง
งบประมาณ--ไทย
งบประมาณ--กฎหมายและระเบียบข้อบังคับ--ไทย
พิมพลักษณ์
กรุงเทพฯ : มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต, 2555
ชื่อเรื่อง
ความเป็นไปได้ในการจัดตั้งศาลวินัยทางบัญชี งบประมาณ การเงินและการคลังของประเทศไทย : กรณีของการเสนอร่างพระราชบัญญัติปะกอบรัฐธรรมนูญ / จารุวรรณ เมณฑกา
ชื่อเรื่อง
Probability of the Establishment of Discipline Court for Accounting, Budgeting, Finance and Fiscal : The Case of Proposing the Organic Law for the Auditor General Office of Thailand
Dewey Call #
343.034 จ27ค
ผู้แต่ง
จารุวรรณ เมณฑกา
พิมพลักษณ์
กรุงเทพฯ : มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต, 2555
เนื้อหา
ความเป็นมาของระบบและกระบวนการตรวจสอบที่ใช้อยู่ในปัจจุบันในการตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐในการใช้จ่ายเงินแผ่นดิน -- บริบทหรือสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจ สังคมและการเมืองที่มีผลต่อระบบและกระบวนการตรวจสอบของสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินและการทุจริตรูปแบบต่างๆ -- ปัญหาและอุปสรรคของระบบและกระบวนการตวจสอบควบคุมการใช้อำนาจรัฐในการใช้จ่ายเงินแผ่นดิน -- ความเป็นไปได้ในการจัดตั้งศาลวินัยทางบัญชี งบประมาณ การเงินและการคลังแนวทางการพัฒนาการตรวจเงินแผ่นดินของไทย และแนวทางการเพิ่มประสิทธิภาพของระบบและกระบวนการตรวจสอบ
หมายเหตุ
วิทยานิพนธ์ (ปรด. (สาขาวิชานโยบายสาธารณะและการจัดการ)) -- มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต, 2555
การวิจัยเรื่องความเป็นไปได้ในการจัดตั้งศาลวินัยทางบัญชี งบประมาณ การเงินและการคลังของประเทศไทย : กรณีของการเสนอร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการตรวจเงินแผ่นดิน มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1 ) ศึกษาความเป็นมาของระบบและกระบวนการตรวจสอบของสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินที่ใช้อยู่ในปัจจุบันว่ามีความเป็นมาและเพียงพอที่จะใช้ในการควบคุมตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐในการใช้จ่ายเงินแผ่นดินอย่างไร 2) ศึกษาสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจ สังคม และการเมือง มีผลกระทบต่อระบบและกระบวนการตรวจสอบหรือไม่ 3) ศึกษาปัญหาและอุปสรรคของระบบและกระบวนการตรวจสอบในปัจจุบัน ผลกระทบของโครงสร้างกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ภาวะผู้นำตลอดจนศึกษาถึงผลกระทบจากค่านิยมของสังคม และ 4) ศึกษาความเป็นไปได้ในการจัดตั้งศาลวินัยทางบัญชี งบประมาณ การเงินและการคลัง เพื่อใช้เป็นเครื่องมือในการควบคุมการใช้อำนาจทางการบริหารงานของรัฐ ที่สามารถนำมาประยุกตืใช้กับการตรวจเงินแผ่นดินในการเพิ่มประสิทธิภาพ ประสิทธิผล คุณภาพ และบรรลุผลสัมฤทธิ์ ผลการวิจัยครั้งนี้ พบว่า ประการที่ 1 สถาบันการตรวจเงินแผ่นดินมีการจัดองค์กรที่มีลักษณะเป็นการแยกงานชิ้ขาดออกจากงานแสวงหาข้อเท็จจริง เพื่อมิให้เกิดการบิดเบือนการใช้อำนาจของแต่ละองค์กร และให้เกิดความถูกต้องเป็นธรรม โปร่งใส และตรวจสอบได้ ประการที่ 2 สภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจ สังคม และการเมืองมีผลกระทบต่อระบบและกระบวนการตรวจสอบเพราะกลุ่มนักธุรกิจขนาดใหญ่สามารถเข้าไปมีบทบาททางการเมืองนอกเหนือไปจากบทบาททางสังคม เศรษฐกิจ และมีส่วนทำให้การเมืองไทยเป็น การเมืองในระบอบธนาธิปไตย ที่เต็มไปด้วยการทุจริตคอรัปชั่นในหลากหลายรูปแบบ จนถึงปัจจุบันมีผลต่อระบบและกระบวนการตรวจสอบของสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน ประการที่ 3 ปัจจัยแวดล้อมต่างๆ เช่นโครงสร้างองค์กร กฎหมายที่เกี่ยวข้อง ภาวะผู้นำ สิ่งแวดล้อม วัฒนธรรม ทัศนคติ และค่านิยม ทำให้เกิดปรากฏการณ์ที่สร้างความเสียหายต่อเงินแผ่นดินไม่เพียงในปัจจุบันเท่านั้นแต่ยังลุกลามแผ่ผลร้ายถึงทรัพยากรส่วนรวมที่ควรเป็นสิทธิของลูกหลานไทยในอนาคตด้วย และประการที่ 4 แม้พระราชบัญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการตรวจเงินแผ่นดิน พ.ศ. 2542 จะมีบทบัญญัติให้คำวินิจฉัยของกรรมการตรวจเงินแผ่นดินเป้นที่สุด แต่ก็ไม่มีบทบัญญัติใดให้คำวินิจฉัยชี้ขาดดังกล่าวมีผลผูกพันองค์กรอื่น ทำให้องค์กรอื่นสามารถดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ โดยไม่จำเป็นต้องคำนึงถึงคำวินิจฉัยของคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน เกิดการหลบเลี่ยงความผิดและใช้เงินแผ่นดินโยบายมีชอบอย่างอุกอาจไม่เกรงกลัวต่อโทษานุโทษซึ่งเป็นปัญหาต่อการบริหารเงินแผ่นดินอย่างมาก ข้อเสนอแนะ ของงานวิจัยนี้คือ ประการที่ 1 ควรจัดให้มีกระบวนการควบคุมในรูปแบบของศาลชำนาญพิเศษ เพื่อทำหน้าที่พิจารณาพิพากษาคดีความผิดวินัยทางบัญชี งบประมาณการเงินและการคลัง และกำหนดโทษปรับแก่เจ้าหน้าที่ผู้กระทำความผิด โดยตุลาการผู้มีความขำนาญพิเศษและประสบการณ์โดยตรง อันจะนำไปสู่การก่อให้เกิดกระบวนการดูแลรักษาเงินภาษีอากร ประเทศไทยจะได้พ้นจากขบวนการโกงกินหรืออย่างน้อยก็เพิ่มมาตรการป้องปรามให้ชัดเจนและรวดเร็วทันกาลมากขึ้น ประการที่ 2 ศาลชำนาญพิเศษควรจะเปิดโอกาสให้คู่ความมีโอกาสนำพยานหลักฐานมาพิสูจน์ในคดีวินัยทางบัญชี งบประมาณ การเงินและการคลัง และคำพิพากษาของศาลจะแสดงเหตุผลประกอบเสมอ ประการที่ 3 เพื่อเป็นการคุ้มครองสิทธิเสรีภาพของเจ้าหน้าที่ของรัฐควรจัดให้คณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดินเป้นผู้กำหนดหลักเกณฑ์การกระทำผิดทางวินัยจากงบประมาณและการคลัง และศาลเป้นผู้พิจารณาชี้ขาด ซึ่งจะเป็นการแบ่งและคานอำนาจซึ่งกันและกัน และกระการสุดท้ายที่สำคัญที่สุด ประการที่ 4 ควรบัญญัติให้คำพิพากษาของศาลวินัยทางบัญชี งบประมาณ การเงินและการคลัง เป้นที่สุดและให้เป้นแนวทางในการปฏิบัติหน้าที่ของข้าราชการและเจ้าพนักงานของรัฐที่เกี่ยวข้องว่าด้วยการกระทำเกี่ยวกับวินัยทางงบประมาณ การเงินและการคลัง เพื่อเป็นการป้องกันการกระทำผิดในลักษณะเดียวกันได้อีก คล้ายคำวินิจฉัยของศาลภาษีอากร หรือศาลแรงงาน
หัวเรื่อง
งบประมาณ--ไทย
งบประมาณ--กฎหมายและระเบียบข้อบังคับ--ไทย
ลักษณะทางกายภาพ
368 หน้า
LDR
04793nam a2200217 4500
005
20230531162139.0
008
160909s2555 th tha d
040
__
‡aSongkhla Rajabhat University
082
04
‡a343.034‡bจ27ค
100
0_
‡aจารุวรรณ เมณฑกา
245
10
‡aความเป็นไปได้ในการจัดตั้งศาลวินัยทางบัญชี งบประมาณ การเงินและการคลังของประเทศไทย :‡bกรณีของการเสนอร่างพระราชบัญญัติปะกอบรัฐธรรมนูญ /‡cจารุวรรณ เมณฑกา
246
31
‡aProbability of the Establishment of Discipline Court for Accounting, Budgeting, Finance and Fiscal : The Case of Proposing the Organic Law for the Auditor General Office of Thailand
260
__
‡aกรุงเทพฯ :‡bมหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต,‡c2555
300
__
‡a368 หน้า
502
__
‡aวิทยานิพนธ์ (ปรด. (สาขาวิชานโยบายสาธารณะและการจัดการ)) -- มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต, 2555
502
__
‡aการวิจัยเรื่องความเป็นไปได้ในการจัดตั้งศาลวินัยทางบัญชี งบประมาณ การเงินและการคลังของประเทศไทย : กรณีของการเสนอร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการตรวจเงินแผ่นดิน มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1 ) ศึกษาความเป็นมาของระบบและกระบวนการตรวจสอบของสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินที่ใช้อยู่ในปัจจุบันว่ามีความเป็นมาและเพียงพอที่จะใช้ในการควบคุมตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐในการใช้จ่ายเงินแผ่นดินอย่างไร 2) ศึกษาสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจ สังคม และการเมือง มีผลกระทบต่อระบบและกระบวนการตรวจสอบหรือไม่ 3) ศึกษาปัญหาและอุปสรรคของระบบและกระบวนการตรวจสอบในปัจจุบัน ผลกระทบของโครงสร้างกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ภาวะผู้นำตลอดจนศึกษาถึงผลกระทบจากค่านิยมของสังคม และ 4) ศึกษาความเป็นไปได้ในการจัดตั้งศาลวินัยทางบัญชี งบประมาณ การเงินและการคลัง เพื่อใช้เป็นเครื่องมือในการควบคุมการใช้อำนาจทางการบริหารงานของรัฐ ที่สามารถนำมาประยุกตืใช้กับการตรวจเงินแผ่นดินในการเพิ่มประสิทธิภาพ ประสิทธิผล คุณภาพ และบรรลุผลสัมฤทธิ์ ผลการวิจัยครั้งนี้ พบว่า ประการที่ 1 สถาบันการตรวจเงินแผ่นดินมีการจัดองค์กรที่มีลักษณะเป็นการแยกงานชิ้ขาดออกจากงานแสวงหาข้อเท็จจริง เพื่อมิให้เกิดการบิดเบือนการใช้อำนาจของแต่ละองค์กร และให้เกิดความถูกต้องเป็นธรรม โปร่งใส และตรวจสอบได้ ประการที่ 2 สภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจ สังคม และการเมืองมีผลกระทบต่อระบบและกระบวนการตรวจสอบเพราะกลุ่มนักธุรกิจขนาดใหญ่สามารถเข้าไปมีบทบาททางการเมืองนอกเหนือไปจากบทบาททางสังคม เศรษฐกิจ และมีส่วนทำให้การเมืองไทยเป็น การเมืองในระบอบธนาธิปไตย ที่เต็มไปด้วยการทุจริตคอรัปชั่นในหลากหลายรูปแบบ จนถึงปัจจุบันมีผลต่อระบบและกระบวนการตรวจสอบของสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน ประการที่ 3 ปัจจัยแวดล้อมต่างๆ เช่นโครงสร้างองค์กร กฎหมายที่เกี่ยวข้อง ภาวะผู้นำ สิ่งแวดล้อม วัฒนธรรม ทัศนคติ และค่านิยม ทำให้เกิดปรากฏการณ์ที่สร้างความเสียหายต่อเงินแผ่นดินไม่เพียงในปัจจุบันเท่านั้นแต่ยังลุกลามแผ่ผลร้ายถึงทรัพยากรส่วนรวมที่ควรเป็นสิทธิของลูกหลานไทยในอนาคตด้วย และประการที่ 4 แม้พระราชบัญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการตรวจเงินแผ่นดิน พ.ศ. 2542 จะมีบทบัญญัติให้คำวินิจฉัยของกรรมการตรวจเงินแผ่นดินเป้นที่สุด แต่ก็ไม่มีบทบัญญัติใดให้คำวินิจฉัยชี้ขาดดังกล่าวมีผลผูกพันองค์กรอื่น ทำให้องค์กรอื่นสามารถดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ โดยไม่จำเป็นต้องคำนึงถึงคำวินิจฉัยของคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน เกิดการหลบเลี่ยงความผิดและใช้เงินแผ่นดินโยบายมีชอบอย่างอุกอาจไม่เกรงกลัวต่อโทษานุโทษซึ่งเป็นปัญหาต่อการบริหารเงินแผ่นดินอย่างมาก ข้อเสนอแนะ ของงานวิจัยนี้คือ ประการที่ 1 ควรจัดให้มีกระบวนการควบคุมในรูปแบบของศาลชำนาญพิเศษ เพื่อทำหน้าที่พิจารณาพิพากษาคดีความผิดวินัยทางบัญชี งบประมาณการเงินและการคลัง และกำหนดโทษปรับแก่เจ้าหน้าที่ผู้กระทำความผิด โดยตุลาการผู้มีความขำนาญพิเศษและประสบการณ์โดยตรง อันจะนำไปสู่การก่อให้เกิดกระบวนการดูแลรักษาเงินภาษีอากร ประเทศไทยจะได้พ้นจากขบวนการโกงกินหรืออย่างน้อยก็เพิ่มมาตรการป้องปรามให้ชัดเจนและรวดเร็วทันกาลมากขึ้น ประการที่ 2 ศาลชำนาญพิเศษควรจะเปิดโอกาสให้คู่ความมีโอกาสนำพยานหลักฐานมาพิสูจน์ในคดีวินัยทางบัญชี งบประมาณ การเงินและการคลัง และคำพิพากษาของศาลจะแสดงเหตุผลประกอบเสมอ ประการที่ 3 เพื่อเป็นการคุ้มครองสิทธิเสรีภาพของเจ้าหน้าที่ของรัฐควรจัดให้คณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดินเป้นผู้กำหนดหลักเกณฑ์การกระทำผิดทางวินัยจากงบประมาณและการคลัง และศาลเป้นผู้พิจารณาชี้ขาด ซึ่งจะเป็นการแบ่งและคานอำนาจซึ่งกันและกัน และกระการสุดท้ายที่สำคัญที่สุด ประการที่ 4 ควรบัญญัติให้คำพิพากษาของศาลวินัยทางบัญชี งบประมาณ การเงินและการคลัง เป้นที่สุดและให้เป้นแนวทางในการปฏิบัติหน้าที่ของข้าราชการและเจ้าพนักงานของรัฐที่เกี่ยวข้องว่าด้วยการกระทำเกี่ยวกับวินัยทางงบประมาณ การเงินและการคลัง เพื่อเป็นการป้องกันการกระทำผิดในลักษณะเดียวกันได้อีก คล้ายคำวินิจฉัยของศาลภาษีอากร หรือศาลแรงงาน
505
2_
‡aความเป็นมาของระบบและกระบวนการตรวจสอบที่ใช้อยู่ในปัจจุบันในการตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐในการใช้จ่ายเงินแผ่นดิน -- บริบทหรือสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจ สังคมและการเมืองที่มีผลต่อระบบและกระบวนการตรวจสอบของสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินและการทุจริตรูปแบบต่างๆ -- ปัญหาและอุปสรรคของระบบและกระบวนการตวจสอบควบคุมการใช้อำนาจรัฐในการใช้จ่ายเงินแผ่นดิน -- ความเป็นไปได้ในการจัดตั้งศาลวินัยทางบัญชี งบประมาณ การเงินและการคลังแนวทางการพัฒนาการตรวจเงินแผ่นดินของไทย และแนวทางการเพิ่มประสิทธิภาพของระบบและกระบวนการตรวจสอบ
650
_7
‡aงบประมาณ‡zไทย
650
_7
‡aงบประมาณ‡xกฎหมายและระเบียบข้อบังคับ‡zไทย
850
__
‡aSKRU
ทรัพยากร
เลือกห้องสมุด :
ทั้งหมด
วิทยาเขตสตูล
สำนักวิทยบริการและเทคโนโลยีสารสนเทศ มหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา
บาร์โค้ด
เลขหมู่/เล่มที่
Collection
ห้องสมุดสาขา
สถานที่จัดเก็บ
สถานะ
188599
343.034 จ27ค
วิทยานิพนธ์
สำนักวิทยบริการและเทคโนโลยีสารสนเทศ มหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา
อ.บรรณราชนครินทร์ ชั้น 5
อยู่บนชั้น
จองทรัพยากร
สาขาที่รับ
วันที่คาดว่าจะรับ
ขอใช้หนังสือด่วน
เงื่อนไข
1. ส่งคำขอเวลา 8.30-11.00น รับหนังสือเวลา 16.00น.
2. ส่งคำขอหลังเวลา 11.00น. รับหนังสือในวันทำการถัดไป
3. ส่งคำขอ วันศุกร์ช่วงบ่าย หรือ วันเสาร์-อาทิตย์ รับหนังสือวันจันทร์ 16.00น.
4. ติดต่อรับหนังสือด่วนได้ที่ เคาน์เตอร์บริการยืม-คืน ชั้น 3 *ภายใน 3 วัน*
ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 2352
ความเห็น
|
บทวิเคราะห์
เพิ่มความเห็น
ชื่อของคุณ
ความเห็น
เพิ่มบทวิเคราะห์
ชื่อของคุณ
เนื้อหา
เพิ่มรายการ
ชื่อเรื่อง
สร้างใน
เก็บในโฟลเดอร์เดียวกันทุกรายการ
สร้างโฟลเดอร์
ชื่อโฟลเดอร์
ผลลัพธ์การเพิ่มรายการ
แบ่งปัน
แบ่งปันให้กับเพื่อนทั้งหมด
เพิ่ม Tag
สร้าง Tag ใหม่
แผนที่ตั้งทรัพยากร
Preview Dialog
Citation
อ้างอิง APA เวอร์ชัน 7
จารุวรรณ เมณฑกา. (2555).
ความเป็นไปได้ในการจัดตั้งศาลวินัยทางบัญชี งบประมาณ การเงินและการคลังของประเทศไทย :กรณีของการเสนอร่างพระราชบัญญัติปะกอบรัฐธรรมนูญ .
กรุงเทพฯ :มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต
อ้างอิง MLA เวอร์ชัน 9
จารุวรรณ เมณฑกา.
ความเป็นไปได้ในการจัดตั้งศาลวินัยทางบัญชี งบประมาณ การเงินและการคลังของประเทศไทย :กรณีของการเสนอร่างพระราชบัญญัติปะกอบรัฐธรรมนูญ .
กรุงเทพฯ :มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต, 2555.
อ้างอิง Chicago เวอร์ชัน 17
จารุวรรณ เมณฑกา. 2555.
ความเป็นไปได้ในการจัดตั้งศาลวินัยทางบัญชี งบประมาณ การเงินและการคลังของประเทศไทย :กรณีของการเสนอร่างพระราชบัญญัติปะกอบรัฐธรรมนูญ .
กรุงเทพฯ :มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต.
อ้างอิง Vancouver เวอร์ชัน 2
จารุวรรณ เมณฑกา. ความเป็นไปได้ในการจัดตั้งศาลวินัยทางบัญชี งบประมาณ การเงินและการคลังของประเทศไทย :กรณีของการเสนอร่างพระราชบัญญัติปะกอบรัฐธรรมนูญ . กรุงเทพฯ :มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต; 2555.
สถิติ
อันดับการยืม / จากทั้งหมด
ไม่มีการยืม
อันดับการใช้งานภายใน/จากทั้งหมด
ไม่มีการใช้งาน
คะแนน/ผู้โหวต
0.0/0
ใช้ล่าสุดเมื่อ
-
จำนวนการยืม
0
เปิดดู (ครั้ง)
77
เพิ่มไปยังรายการ
0
สงวนลิขสิทธิ์ © 2555, มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ สงวนสิทธิ์ทั้งหมด
ผลการทำงาน
Undefined result.